วันอาทิตย์ที่ 7 ธันวาคม พ.ศ. 2557

ใจ อึ๊งภากรณ์: ศาสนาประจำชาติของไทยคือ “ลัทธิกษัตริย์” ไม่ใช่พุทธศาสนา




ศาสนาประจำชาติของไทยคือ “ลัทธิกษัตริย์” ไม่ใช่พุทธศาสนา ถ้าเราจะปลดแอกสังคมไทยให้เป็นประชาธิปไตย เราจำเป็นต้องรื้อถอนลัทธิกษัตริย์ ยกเลิกสถาบันกษัตริย์ และโค่นอำนาจของกองทัพ


ศาสนาประจำชาติของไทยคือ “ลัทธิกษัตริย์” ไม่ใช่พุทธศาสนา
ใจ อึ๊งภากรณ์

ศาสนาประจำชาติที่ชนชั้นปกครองไทยพยายามยัดเยียดให้เรานับถือคือ “ลัทธิบูชากษัตริย์” ไม่ใช่พุทธศาสนาแต่อย่างใด
ในสังคมเผด็จการล้าหลังของพวกคริสต์หรืออิสลาม ในอดีตหรือปัจจุบัน ชนชั้นปกครองมักจะอ้าง “คัมภีร์ศักดิ์สิทธิ์” ในการกดขี่ประชาชนและการปราบปรามคนที่ถูกป้ายร้ายว่า “นอกรีต”คนที่คิดต่างนั้นเอง ในสเปนสมัยยุคกลาง มีการตั้งองค์กร “สอบสวน” เพื่อทรมาน ปราบปราม และกดดันคำสารภาพผิดจากคนที่คิดต่าง ตอนนั้นกษัตริย์สเปนใช้ศาสนาคริสต์แบบเผด็จการ เพื่อกวาดล้างชาวมุสลิม “มัวร์” ที่เคยครองสเปนและนำความเจริญศิวิไลซ์มาสู่ส่วนนั้นของยุโรป นอกจากนี้ชาวยิว และคนที่ไม่ยอมก้มหัวให้กษัตริย์ล้าหลัง ก็ถูกกวาดล้างไปด้วยอย่างโหดร้ายทารุน ใครไม่เปลี่ยนความคิดก็จะถูกฆ่าหรือขับไล่ออกจากประเทศ

การใช้ “คัมภีร์ศักดิ์สิทธิ์” ของพวกเผด็จการคริสต์ หรือโดยพวกมุสลิมล้าหลังในซาอุ หรือองค์กรไอซิล อาศัยการอ้างว่า “คัมภีร์ศักดิ์สิทธิ์” มาจากพระเจ้าและเถียงด้วยหรือวิจารณ์ไม่ได้ แต่ในความเป็นจริง “คัมภีร์ศักดิ์สิทธิ์” ไม่ได้เขียนโดยพระเจ้า ผมเองมองว่าพระเจ้าไม่มีจริงด้วยซ้ำ คัมภีร์ต่างๆ เขียนขึ้นโดยฝีมือมนุษย์ธรรมดาทั้งสิ้น และที่สำคัญที่สุดคือคนอ่านสามารถตีความแตกต่างกันได้ ซึ่งเป็นประโยชน์กับการใช้เป็นเครื่องมือปราบปรามคนที่คิดต่าง และเพื่อแสวงหาความชอบธรรมของพวกเผด็จการป่าเถื่อน
อย่างไรก็ตาม “คัมภีร์ศักดิ์สิทธิ์” สามารถถูกตีความเข้าข้างคนที่ถูกกดขี่ เพื่อให้ความหวังกับคนที่ไร้ความหวังได้ เพราะศาสนาเป็น “หัวใจในโลกที่ไร้หัวใจ” พร้อมกับเป็นเครื่องมือที่ชนชั้นปกครองใช้เพื่อกดขี่เรา

กษัตริย์ภูมิพลเป็นเสมือน “คัมภีร์ศักดิ์สิทธิ์” ที่ถูกใช้เป็นเครื่องมือของชนชั้นปกครองไทย พวกนี้คุมเขาอยู่ตลอด โดยเฉพาะทหาร ข้าราชการชั้นสูง และนักการเมืองนายทุน เพราะภูมิพลถูกปั้นขึ้นมาเป็น “สิ่งศักดิ์สิทธิ์” ตั้งแต่สมัยสงครามเย็นภายใต้เผด็จการสฤษดิ์ แต่ชนชั้นปกครองปั้นภูมิพลขึ้นมาแล้วเล่นละครกราบไหว้ภูมิพล เหมือนกับว่าเกิดบนสวรรค์ กษัตริย์ภูมิพลถูกแต่งเป็นอัจฉริยะมนุษย์กึ่งพระเจ้าที่รู้ทุกอย่างและมีความสามารถรอบด้าน ซึ่งล้วนแต่เป็นนิยายทั้งสิ้น ในความเป็นจริงนายภูมิพลมีความสามารถปานกลาง ไม่มีอะไรพิเศษ และไม่เคยมีความกล้าหาญที่จะขัดกับเจ้านายแท้ในสังคมที่คุมและสร้างเขาขึ้นมาแต่แรก

ลัทธิกษัตริย์ไทยถูกใช้เพื่อปราบคนคิดต่าง โดยมีองค์กหลายองค์กรที่ “สอบสวน” และ “ค้นหา” คนนอกรีต และกฏหมาย 112 คือกฏหมายปราบคนที่อยากเห็นรัฐไทยใหม่ที่มีเสรีภาพและความเท่าเทียม และการขังลืมนักโทษ 112 เป็นการใช้ความรุนแรงในเชิงการทรมานจิตใจ การกดดันให้นักโทษ “สารภาพผิด” เพื่อลดโทษ ก็เป็นวิธี “พิสูจน์” ว่ามีคนคอย “ทำลายความดีงาม” ของสังคมจริง
คำพูดกำกวมของนายภูมิพล ตามสคริพท์ที่เจ้านายร่างให้ ก็เป็นวิธีปล่อยให้ชนชั้นปกครองตีความ “คัมภีร์” เพื่อเข้าข้างตนเองและให้ความชอบธรรมกับตนเองเสมอ และถ้าใครกล้าเถียงก็จะโดน 112 ทันที

ศาสนาประจำชาติของชนชั้นปกครองไทย พยายามทำให้ลัทธิกษัตริย์กับลัทธิชาตินิยมไปด้วยกันหรือเป็นสิ่งเดียวกันด้วย ลัทธิกษัตริย์มันปกป้องฐานะพิเศษของอภิสิทธิ์ชนที่จะปกครองชาติและปกครองพลเมืองส่วนใหญ่ โดยใช้อำนาจนอกระบบประชาธิปไตย
พุทธศาสนาในรูปแบบที่นับถือกันในไทย เป็นศาสนาที่เน้นความเชื่อและการกระทำของปัจเจกในการสร้างบุญ หรือในการลดความทุกข์ และมักมีการผสมเรื่องผีสางนางไม้หรือศาสนาฮินดูเข้าไปด้วย เนื่องจากผู้ปกครองไทยแต่เดิมไม่อยากให้องค์กรศาสนาพุทธกลายเป็นคู่แข่ง ก็มีการลดบทบาททางการเมืองของสงฆ์ ซึ่งต่างจากบทบาทพระสงฆ์ในขบวนการกู้ชาติของพม่าหรือลาว ดังนั้นพุทธศาสนาไม่ได้ถูกใช้เป็นศาสนาประจำชาติเพื่อกดขี่ปราบปรามประชาชนในยุคนี้ เขาใช้ลัทธิกษัตริย์แทน

เราไม่ควรเข้าใจผิดว่าเมื่อภูมิพลตายลัทธิกษัตริย์จะตายไปด้วย มันไม่ใช่ เพราะทุกอย่างเป็นเรื่องแต่งเพื่อปราบประชาชน ดังนั้นจะเอาคนที่มีความสามารถปานกลาง หรือคนที่เกือบจะไม่มีความสามารถเลย มาดำรงตำแหน่งได้เสมอ

ถ้าเราจะปลดแอกสังคมไทยให้เป็นประชาธิปไตย เราจำเป็นต้องรื้อถอนลัทธิกษัตริย์ ยกเลิกสถาบันกษัตริย์ และโค่นอำนาจของกองทัพ

--
Giles Ji Ungpakorn

1 ความคิดเห็น:

  1. ไอ้ใจมันบ้าป่าววะ รู้งูๆปลาๆแล้วเสือกมาพูด

    ตอบลบ