ดารณี รวีโชติ
ผอ.กอท.เสรีไทย
24พย.57
________________
ยุทธศาสตร์ 3
ขั้น ขบวนเสรีไทยฯ “รับ-ยัน-รุก” จารุพงศ์
- ประกาศไม่สู้ด้วยอาวุธ แต่ติดปัญญาให้คนไทยตาสว่าง รอวันรุก เมื่อทหาร-ตำรวจ
เป็นของประชาชน
Sat, 11/22/2014 - 22:17 jom
ยุทธศาสตร์ 3
ขั้น ขบวนเสรีไทยฯ “รับ-ยัน-รุก” จารุพงศ์
- ประกาศไม่สู้ด้วยอาวุธ แต่ติดปัญญาให้คนไทยตาสว่าง รอวันรุก เมื่อทหาร-ตำรวจ
เป็นของประชาชน
นายจารุพงศ์ เรืองสุวรรณ
เลขาธิการองค์การเสรีไทยเพื่อสิทธิมนุษยชนและประชาธิปไตย ( Free Thai
Organisation for Human Rights and Democracy ) ให้สัมภาษณ์ Thaivoicemedia.com
ว่า เมื่อวันที่ 21 พฤศจิกายนที่ผ่านมา
เครือข่ายองค์การเสรีไทยภาคยุโรปและอเมริกา ประกอบด้วย นอร์เวย์ สวีเดน เดนมาร์ค
เยอรมัน และอเมริกา ได้ประชุมหารือผ่านระบบ Skype - conference เพื่อกำหนดทิศทางการเคลื่อนไหว
ซึ่งตนได้เสนอแนวทางให้วิเคราะห์ 3 แนวทางคือ 1.ต้องถามตัวเองว่าสู้เพื่ออะไร
2. สู้อยู่กับใคร
อย่าเป็นเหมือนวัวกระทิงที่สู้อยู่กับผ้าสีแดงเพียงอย่างเดียว และ 3. ยุทธศาสตร์ในการต่อสู้เป็นอย่างไร
นายจารุพงศ์เปิดเผยว่า
ยุทธศาสตร์ขององค์การเสรีไทยฯมี 3 ขั้นคือ ขั้นรับ ขั้นยัน และขั้นรุก
ตอนนี้ทำได้เพียงการตั้งรับเท่านั้น คือซุ่มซ่อน และรอคอยโอกาส
โดยแต่ละกลุ่มเครือข่ายจะทำงานลักษณะเสรีชน แสวงจุดร่วมสงวนจุดต่าง
ขณะนี้ถ้าเปรียบการต่อสู้ก็เหมือนอยู่ในขั้นที่เรียกว่า เข็นครกขึ้นภูเขา
จะหนักและยากที่สุด แต่เมื่อถึงยอดเขาแล้ว ก็จะเข้าสู่ยุทธศาสตร์ขั้นรุก
ซึ่งจะง่ายขึ้น
นายจารุพงศ์กล่าวว่า มีการถามและบ่นกันมากว่า
องค์การเสรีไทยฯไม่ได้มีแผนที่ชัดเจนและไม่รู้ว่าจะชนะเมื่อไร ขอบอกว่า
ขนาดมีรัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้ง โดยคนส่วนใหญ่ของประเทศ
ยังถูกรัฐประหารซ้ำแล้วซ้ำอีก นับประสาอะไรกับองค์กรที่ตั้งขึ้นมาเพียงไม่ถึงปี
“ที่พูดแบบนี้ไม่ใช่จะทำให้ท้อ
แต่หัวใจสำคัญของการต่อสู้ และเป็นสิ่งที่ผมยึดมั่นคือหลัก Rule of
Majority คือหลักของการใช้เสียงส่วนใหญ่ตัดสิน
แต่ต้องเคารพและรับฟังเสียงส่วนน้อยด้วย กฎนี้จะทำให้ได้มาซึ่งผู้มีอำนาจจากการเลือกตั้งโดยประชาชน
แล้วถึงจะเข้าสู่หลัก Rule of Law ที่มีระบบศาล รัฐสภา
กระบวนการนิติบัญญัติ กระบวนการยุติธรรม โดยที่มาจากประชาชนทั้งหมด
นี่คือหลักคิดและตัวตนของผม ” นายจารุพงศ์กล่าว
นายจารุพงศ์กล่าวต่อไปว่า
ส่วนยุทธศาสตร์ขั้นยัน จะต้องประเมินจากประชาชนคนไทยส่วนใหญ่
และสังคมโลกที่สนับสนุน คือต้องทำให้ทหาร กลับมารับใช้ประชาชน
ไม่ใช่เป็นทหารของพระราชา เพราะทหารกินเงินเดือนจากภาษีของประชาชน
“การที่ทหารไทย ประกาศว่า
ตัวเองเป็นทหารของพระราชานั้น เพราะเป็นไปตามกฎหมายที่กำหนดขึ้น ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2457
สมัยรัชกาลที่ 6 ซึ่งยังปกครองในระบอบราชาธิปไตย
และนี่คือที่มาของการบังคับใช้กฎอัยการศึก ที่ให้อำนาจทหารแต่ละพื้นที่ประกาศใช้
กฎอัยการศึกได้ เหตุนี้เองที่ทำให้ตลอด 82 ปีหลังเปลี่ยนแปลงการปกครอง
เกิดรัฐประหารขึ้นมากกว่า 20 ครั้ง และประสบความสำเร็จถึง 17
ครั้ง นับเป็นการใช้กฎหมายที่ล้าสมัยและผิดยุคผิดสมัย” นายจารุพงศ์กล่าว
นายจารุพงศ์กล่าวต่อไปว่า องค์การเสรีไทยฯ
จึงเตรียมเสนอร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญที่ประชาชนเป็นผู้ร่าง
เพื่อให้ทหารกลับมาเป็นของประชาชน นี่คือแนวทางต่อสู้ของ เสรีไทยฯ
จะไม่ใช้ความรุนแรงหรือไม่ใช้อาวุธใด ๆ แต่จะติดอาวุธให้กับคนไทย
เพราะอาวุธที่สำคัญที่สุดของมนุษย์คือสมอง นี่คือยุทธศาสตร์ขั้นยัน
“ผมต้องการให้สังคมไทยตาสว่าง และเอาไปคิดว่า
เรากำลังสู้เพื่ออะไร สู้อยู่กับใคร และสู้อย่างไร เป้าหมายสูงสุดก็คือ
การทำให้อำนาจสูงสุดเป็นของประชาชน นั่นหมายความว่า
คนไทยทุกคนจะต้องต่อสู้เพื่อให้ได้มาซึ่งสิทธิเสรีภาพและเคารพศักดิ์ศรีความเป็นคนของตัวเอง
ถ้ายังไม่มีสำนึกแบบนี้ สู้อย่างไร ก็ไม่มีวันได้ชัยชนะ
และนี่คือสิ่งที่ผมออกมาจากประเทศไทยก็เพราะต้องการจะสู้เพื่อสิ่งนี้” นายจารุพงศ์กล่าว
เลขาธิการองค์การเสรีไทยฯ กล่าวต่อไปว่า
เมื่อเปลี่ยนความคิดของคนส่วนใหญ่ได้ ทำให้คนไทยตาสว่างมากขึ้นได้ 30-40
ล้านคน ในจำนวนนี้ต้องรวมถึง ทหาร ตำรวจ
และข้าราชการด้วยที่ไม่ต้องการอยู่กับระบอบเก่าอีกต่อไป
และสามารถคุมพื้นที่ส่วนใหญ่ของประเทศได้ก็จะเข้าสู่ขั้นรุก ซึ่งเมื่อถึงขั้นนี้
การปฏิรูปประเทศก็จะง่ายขึ้น
นายจารุงพงศ์กล่าวว่า
ถามว่าจะใช้ระยะเวลานานแค่ไหน ไม่มีใครตอบได้ แต่แน่นอนต้องใช้เวลานาน
อย่างการปฏิวัติฝรั่งเศสใช้เวลา 20-30 ปี และขอย้ำว่าองค์การเสรีไทยฯ
จะไม่ต่อสู้ด้วยอาวุธ แต่จะสร้างเครือข่ายแนวร่วม เพื่อทำให้ประชาชนเกิดความเข้าใจ
การตั้งองค์กร แบบผู้เท่ากันถึงผู้เท่ากัน หรือ แบบเสรีชน
รูปแบบนี้จะอาศัยระบบการสื่อสารเป็นหัวใจสำคัญ
“ผมย้ำว่าการตั้งองค์การของเสรีไทยฯ
จะไม่เป็นแบบปิรามิด หรือแบบยอดเจดีย์ ที่ ทุกอย่างสั่งมาจากส่วนบนสุด
แต่จะเป็นแบบร่างแห รังผึ้ง หรือค่ายกล ที่เชื่อมต่อกันด้วยเทคโนโลยีสื่อสารที่แข็งแรงที่สุด”
นายจารุพงศ์กล่าวและว่า ภาคีเครือข่ายของเสรีไทยฯ
แต่ละกลุ่มจะต้องหาทางช่วยตัวเอง หาการสนับสนุนทุก ๆ ด้านกันเองแต่
มีหลักการหรือเป้าหมายอันเดียวกัน.
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น