วันพฤหัสบดีที่ 13 ตุลาคม พ.ศ. 2559

ข่าวลับ ข่าวลับกรองแล้ว 13ตุลาคม 2559 "ปู่เย็นตายล่วงหน้าแต่จะประกาศว่าตายจริง23 ตุลานี้"



***สืบความลับจับมาตีแผ่เผยแพร่เป็นประจำในขบวนการประชาธิปไตยไทยในสแกนดิเนียเวียโดยกลุ่มเสียงประชาชนไทย(สปท.)  http://thaiscandemo.blogspot.com/

*ปู่โรงเย็นมีชีวิตที่ยิ่งใหญ่จะให้ตายง่ายๆไม่ได้เพราะลูกหลานและขุนทหารยังจะต้องใช้ร่างและพระบารมีใส่สีตีไข่สืบต่ออำนาจเผด็จการอีกนานจึงเตรียมจัดการกำหนดวันตายให้ยิ่งใหญ่โดยอาศัยวันตายเสด็จปู่ร.5มหาราชมาใช้ให้ตรงกันคือจะประกาศวันตายเป็นทางการ23 ตุลา 59

*ใครจะซื้อหวยให้ตรงกับวันตายจริงยิ่งจะยุ่งเพราะถ้านับวันตายทางสมองที่เริ่มหมดสภาพนอนนิ่งเป็นมาตั้งแต่เดือนสิงหาปีนี้แต่ทางการแพทย์ที่ถือว่าตายคือสมองตาย100%เป็นวันที่9กันยา59,ข่าวภายในหลุดรอดออกมาตลาดหุ้นไทยจึงตกรูดมหาราชในเช้าวันนั้นและหลังจากนั้นเสี่ยก็ใช้การตายทางสมองจัดการยกเครื่องวังครั้งใหญ่มาตลอดจนถึงเปลี่ยนคณะกรรมการบริหารวังที่เรียกว่าชุด"คณะปฏิวัติวัง"จากเดิมมี49คนแต่เสี่ยจับมือปู่เซนต์ตั้งใหม่ให้เหลือ9คนโดยมีชื่อจิรายุเป็นเลขาธิการเมื่อ23กันยา59

*หลายคนงงกับข่าวกรองที่ว่าเสี่ยไม่ชอบขี้หน้าจิรายุแล้วทำไมจึงให้มานั่งเป็นเลขาธิการใหญ่ในวังควบกับผู้อำนวยการใหญ่สำนักงานทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์ที่ถือเป็นกองมหาสมบัติที่ทั้งเสี่ยและน้องเทพถ่างพร้อมบริวารถือเป็นเป้าหมายการช่วงชิง...สายข่าวรายงานมานานแล้วว่าเสี่ยกำลังทำพิธีปลดจิรายุแบบบัวไม่ช้ำน้ำไม่กระเพิ่ม...แล้วสุดท้ายก็เป็นจริงตามข่าวลับเมื่อวันที่10ตุลาหลังวันที่ปู่โรงเย็นช็อคหัวใจหยุดเต้นเพียงวันเดียวจิรายุก็มีหนังสือลาพักถาวรจากตำแหน่ง ผอ.สำนักงานทรัพย์สินฯ

*หนังสือลาพักงานของจิรายุพิมพ์อย่างประหยัดกระดาษโดยใช้กระดาษA4เพียงครึ่งแผ่นด้วยข้อความสั้นๆขอลาพักงานตั้งแต่วันที่10ตุลาแต่ดันไม่บอกว่าจะกลับมาทำงานเมื่อไร?แล้วก็มอบอำนาจให้รองผู้อำนวยการทำแทน...ผู้สันทัดกรณีวิเคราะห์ว่าที่ต้องทำแบบบัวไม่ช้ำน้ำไม่กระเพิ่มไม่เหมือนกับกรณีของสายสกุลวัชโรทัยที่สั่งปลดและให้เข้าฝึกทหารตัดหัวเกรียนนั้นเพราะเป็นเรื่องละเอียดอ่อนเงินๆทองๆเพราะถ้าทำตึงตังเดี๋ยวจะเบิกสตางค์ใช้ไม่ได้...แค่ทำเป็นหนังสือลาออกก็วุ่นแล้วเพราะ9ตุลาหมอดันเขียนแถลงการพระอาการว่าปู่โรงเย็นต้องหยุดงานลงนามอะไรไม่ได้แล้ว,ถ้าปล่อยให้เกิดน้ำกระเพิ่มเกิดจิรายุเซนต์ลาออกตรงไปตรงมาเห็นท่าจะยุ่งเพราะจะจับมือปู่เซนต์แต่งตั้งใครให้เป็นผู้อำนวยการทรัพย์สินคนใหม่ก็ไม่ได้,จะต้องรอเสี่ยขึ้นเป็นกษัตริย์เองแล้วเซนต์แต่งตั้งก็ยังไม่รู้จะเป็นได้เมื่อไร,แม้จะเห็นตำแหน่งไม่ไกลแต่ยังมีอุปสรรคอีกหลายขุมโดยเฉพาะชุมนุมโจรสี่เสาที่เฝ้าดักปล้นอยู่

*คณะกรรมการวัง9คนที่เสี่ยรีบแต่งตั้งในนามของปู่โรงเย็นโดยใช้ตราลายเซ็นต์ปู่ประทับนั้นใครเห็นก็เป็นที่รูกันว่าเป็นคณะปฏิวัติวังที่มีหัวหน้าคณะคือพลอากาศเอกสถิตย์พงษ์ สุขวิมล รองเลขาธิการพระราชวังเป็นหัวหน้าคณะตัวจริงทำการแทนเสี่ย และเลขาธิการคณะปฏิวัติวังคือพลตำรวจเอก จุมพล มั่นหมาย เพื่อนเลิฟเสี่ยโดยมอบหมายหน้าที่ฝ่ายคุมกำลังและอาวุธซึ่งตามประวัติศาสตร์ไม่เคยมีตำแหน่งนี้เลย  คือ"รองเลขาธิการพระราชวังฝ่ายความมั่นคง"

*คณะนี้ละที่จะเข้ามาจัดการปูทางให้เสี่ยขึ้นเป็นรัชกาลที่10ให้ราบรื่นโดยต้องประสานงานทั้งบู้ทั้งบุ้นลุ้นกันต่อไป

*อีกตำแหน่งที่สำคัญคือแพทย์ประจำพระองค์ปู่โรงเย็นคือนายแพทย์สงคราม ทรัพย์เจริญ ซึ่งถ้าใครรู้ประวัติก็จะไม่กล้าให้รักษาเพราะมีอายุ89ปีแก่กว่าคนไข้ที่นอนนิ่งอยู่ที่ศิริราชที่จะต้องมาดูแลเสียอีก...ปู่โรงเย็นถูกจับมือเซ็นต์ตั้งมาเพียงเพื่อให้ช่วยเซนต์ชื่อบอกคนไทยทีว่า"ปู่ตายแล้ว"เพราะเวลาปู่ตายไม่มีหมอคนใหนกล้าเซนต์ชื่อเพราะกลัวลูกหลงเหลืองคลั่งเจ้าจะกล่าวหาว่าทำให้ปู่ตายเพราะคณะแพทย์ถูกบังคับให้รายงานว่าปู่นอนอยู่ศิริราชแข็งแรงดีวันดีคืน

*แถลงการณ์ฉบับที่37เป็นเรื่องใหญ่ที่คณะแพทย์กว่าจะออกได้ต้องปล้ำปู่โรงเย็นต่อเนื่องยาวนานตลอด24ชั่วโมงตั้งแต่บ่าย2โมงของวันที่8จนถึงสว่างของวันรุ่งขึ้นและต้องคอยเฝ้าเก็บงานจนเหงื่อกาฬหมอแตกถึงบ่าย3โมงด้วยใจคอไม่ดีเพราะท่านได้แน่นิ่งเป็นผักสมบูรณ์แบบแล้วและสุดท้ายต่างมีความเห็นร่วมกันว่าต้องระบุเอาตัวรอดได้แล้วว่าปู่โรงเย็นหมดสภาพที่จะให้ใครแอบอ้างลายเซนต์นำไปโกหกโลกได้อีกต่อไปแล้วไม่ว่าด้วยเหตุผลใดๆคือ"งดพระราชกิจ"เพราะร่างของปู่ไม่ไหวติงนิ่งสนิทตั้งแต่เมื่อคืนวันที่9ตุลาและแจ้งให้ลูกหลานของปู่ได้ทราบทั่วกันว่าจะยื้อต่อไปให้มีลมหายใจนั้นก็ยากแสนยาก

*อาการระยะสุดท้ายของปู่นั้นทั้งนายกฯ,องคมนตรี,ผู้นำเหล่าทัพ,ตำรวจระดับสูงและเสี่ยต่างรู้ความจริงตรงกันหมดแต่ปิดไม่บอกประชาชนเพราะยังมีวาระซ่อนเล้น,ด้วยเหตุนี้จึงมีการกำหนดวางแผนล่วงหน้าว่าจะกำหนดวันตายเป็นช่วงสัปดาห์ที่สามของเดือนตุลาเพื่อให้ตรงกับวันตายของปู่ร.5เพราะถ้าปล่อยให้ตายจริงโดยหยุดลมหายใจใครก็รู้ว่าน่าจะตรงกับช่วงเวลา6ตุลาหรือ14ตุลาก็จะเป็นประเด็นหวาดผวาทางประวัติศาสตร์ว่าผีนักศึกษาประชาชนที่ปู่สั่งฆ่ามาทวงวิญญานปู่พอดี...เมื่อหลอกผีไม่ได้ก็ให้หลอกคนก็แล้วกันว่าท่านตายอย่างยิ่งใหญ่วันเดียวกับเสด็จปู่ร.5

*แล้ววันสิ้นลมก็ถึงก่อนเวลาจนได้จนแพทย์ก็หมดปัญญาเมื่อบ่ายของวันที่12ตุลาจนทุกคนต้องมากันที่ศิริราช,แต่เมื่อแผนการวางแล้วก็จำต้องใช้เทคนิคทางการแพทย์ดึงต่อไปอีก10วัน

*10วันทางการแพทย์พอดึงไหวแต่ทางการข่าวและทางการทหารชักจะยุ่ง,ด้วยเหตุนี้ผู้อำนวยการสำนักข่าวทั้งหลายจึงถูกเรียกประชุมลับกับนายกฯและเสี่ยขอให้ฟังการแถลงข่าวจากสำนักพระราชวังเท่านั้นพร้อมทั้งสั่งให้ไก่อูปากมอมออกมาปรามชาวบ้านห้ามฟังข่าวจากชาวเนทที่แพร่สะพัดจนรัฐคุมไม่อยู่

*10วันต่อจากนี้เห็นทีจะยุ่งพิลึกเพราะสายตำรวจเปิดข่าวนำว่าจะมีการก่อวินาศกรรมและมีการระดมกำลังเตรียมพร้อมกันทุกฝ่ายทั้งตำรวจต้องที่,ทหารรวมไปถึงต.ช.ด.

*เรื่องเตรียมพร้อมดูภายนอกเหมือนดีแต่ภายในกลายเป็นประกาศกฎอัยการศึกซ้อนอำนาจประยุทธ์ ณ.ม44อย่างลับๆส่วนใครจะซ้อนแผนใครคงต้องติดตามตาไม่กระพริบ

*10วันต่อไปนี้ที่ยุ่งที่สุดและโกหกใครไม่ได้อีกแล้วก็คือจะกล่าวอ้างลายเซนต์ของปู่ต่อไปอีกไม่ได้เพราะมันขายขี้หน้าเพราะที่ผ่านมาก็พอจะเอาสีข้างเข้าถูได้แต่นับจากแถลงการณ์ฉบับที่37และ38และข่าวอึกถึกครึกโครมว่าปูหยุดหายใจจนคนมากันแน่นศิริราชเห็นทีจะโกหกว่าลุกมาเซ็นต์ชื่อได้คงไม่ไหว,แต่ครั้นเสี่ยจะตั้งตัวเองเซนต์แทนก็ยังไม่ได้เพราะไม่ใช่ผู้สำเร็จราชการแทนพระองค์,ตรงนี้ละเป็นเรื่องยุ่งเพราะเฒ่าเปรมมันร่างรัฐธรรมนูญให้อำนาจตัวมันเองไว้ในมาตรา20ให้มันเป็นผู้สำเร็จราชการแทนฯโดยโอโตเมติค,ครั้นเสี่ยจะยอมตามกฎหมายรัฐธรรมนูญก็กลัวเฒ่าเปรมจะเชิดตำแหน่งรัชการที่10ไปถวายให้น้องสาว

*เรื่องยุ่งๆของวังยังไม่หมดไม่สิ้นไปง่ายๆเพราะปู่โรงเย็นแท้ๆที่เห็นแก่ตัวไม่ยอมแก้ปัญหาขณะที่ยังแข็งแรงและถืออำนาจจนนาทีสุดท้ายตายไปกับตัว,แถมยังให้ท้ายเฒ่าเปรมเข้าทำนองสุภาษิตไทย"เห็นขี้ดีกว่าใส้"ขี้มันจึงปั่นให้ลูกในใส้ต้องตีกันจนจะต้องพังกันไปทั้งคู่...แล้วสปท.จะเจาะติดข่าวนำมาเล่าต่อไป...จบ//

4 ความคิดเห็น:

  1. ไม่เห็นน่าเชื่อเลย เรารู้ อีกด้านนะ ขาวกับดำ

    ตอบลบ
  2. ขอไห้อัฟเดด บ่อยๆๆด้วยนะครับน่าสนใจข่าววงใน

    ตอบลบ
  3. สุดยอดแห่งยอดดอย

    ตอบลบ